ชุมนุมเมียนมา นองเลือด ผู้ชุมนุมตายเพิ่มอีก 38 ศพ

ชุมนุมเมียนมา นองเลือด ผู้ชุมนุมตายเพิ่มอีก 38 ศพ

สถานการณ์การ ชุมนุมเมียนมา ยังคงรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงผู้ชุมนุมจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 38 ศพ รัฐประหารเมียนมา – เมื่อวันที่ 15 มีนาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า หน่วยรักษาความปลอดภัยในประเทศเมียนมาได้เปิดฉากยิงผู้ชุมนุมที่ออกมาประท้วงต่อต้านการรัฐประหารในนครย่างกุ้ง จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมครั้งนี้ 38 ศพ ถือเป็นยอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมที่สูงสุดในวันเดียว

ขณะเดียวกันรัฐบาลได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตหล่ายธายา และเขตฉ่วยปีธา 

หลังจากที่มีผู้ชุมนุมได้ลักลอบเข้าไปวางเพลิงโรงงานเย็บผ้าของจีน รวมถึงบุกทำลายโรงงานและโรงแรมมากกว่า 10 แห่ง โดยผู้ชุมนุมเชื่อว่ารัฐบาลจีนเป็นผู้หนุนหลังกองทัพเมียนมา ซึ่งทางสถานทูตจีนในประเทศเมียนมาเปิดเผยว่า โรงงานได้รับความเสียหายและมีทรัพย์สินถูกปล้นสะดมจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีพนักงานชาวจีนได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

โดยสถานทูตจีนได้ออกมาเรียกร้องให้กองทัพรีบหามาตรการในการหยุดยั้งความรุนแรงครั้งนี้ และลงโทษผู้ที่ละเมิดกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับชาวจีนและทรัพย์สินของบริษัทจีนที่อยู่ในประเทศเมียนมา ถานการณ์ชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมา ยังคงร้อนระอุอย่างต่อเนื่องและลากยาวไปสัปดาห์ที่ 6 หลังจากที่ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ได้ยึดอำนาจ พร้อมจับกุมนาง อองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ในข้อหาโกงการเลือกตั้งเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งพล.อ. มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมารับปาก จะจัดการเลือกตั้งทันทีหลังยึดอำนาจ 1 ปีตามที่ประกาศเอาไว้

ขณะนี้มีรายงานเบื้องต้นว่ายอดผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมเข้าใกล้ 100 ศพ และ สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (AAPP) ระบุว่า มีผู้ถูกทางการจับกุมไปแล้วมากกว่า 2,100 คน

สุงะ นายกญี่ปุ่น เผยว่าตนมีกำหนด เข้าพบ ไบเดน ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเมษายนที่จะถึงนี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ของสองชาติ

สหรัฐฯ ญี่ปุ่น – เมื่อวันที่ 12 มีนาคม สำนีกข่าวเกียวโดรายงานว่า นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนมีแผนจะเข้าพบกับนาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าทั้งสองจะหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสและประเทศจีน

นอกจากนี้คาดว่านาย สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จะหารือเรื่องภาวะโลกร้อน รวมถึงการลักพาตัวชาวญี่ปุ่นไปยังประเทศเกาหลีเหนือในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย และด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสคาดว่าคณะเดินทางของผู้นำญี่ปุ่นน่าจะน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทางการญี่ปุ่นยังได้ระบุอีกว่า ผู้ที่จะเดินทางเข้าพบผู้นำสหรัฐฯทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19

เนเธอร์แลนด์ ร่วมวง หยุดฉีดแอสตราเซเนกา ชั่วคราว

ทางการเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจ หยุดฉีดแอสตราเซเนกา เป็นการชั่วคราว หลังพบผู้รับวัคซีนในนอร์เวย์แสดงอาการข้างเคียงอย่างรุนแรง

แอสตราเซเนกา – เมื่อวันที่ 15 มีนาคม สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ทางการเนเธอร์แลนด์ประกาศหยุดฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นการชั่วคราว และจะไม่มีการฉีดวัคซีนชนิดนี้จนไปถึงอย่างน้อยวันที่ 29 มีนาคม หลังจากที่มีการตรวจพบผลข้างเคียงในการฉีดวัคซีนชนิดดังกล่าว

โดยทางการระบุว่าคำสั่งครั้งนี้เป็นเพียงแค่การระมัดระวัง พร้อมกล่าวอีกว่าทางการไม่สามารถให้ประชาชนรู้สึกสงสัยในประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งทางการคิดว่าการตัดสินใจที่ดีที่สุดในขณะนี้คือพักการฉีดวัคซีนเป็นการชั่วคราว

ซึ่งหากทางการไม่ได้สั่งระงับการฉีดวัคซีน ประเทศเนเธอร์แลนด์จะทำการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเกือบ 3 แสนโดสในช่วงสองสัปดาห์ถัดจากนี้ นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยว่าประเทศเนเธอร์แลนด์ได้สั่งวัคซีนชนิดนี้แล้วกว่า 12 ล้านโดส

ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางการนอร์เวย์เปิดเผยว่าพบผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนที่เป็นกลุ่มคนอายุน้อย 3 คนที่มีผลข้างเคียงอย่างรุนแรง โดยทั้งสามเกิดภาวะ ลิ่มเลือดอุดตัน และ เลือดออกในสมอง จนทำให้ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

อย่างไรก็ตามทางการเนเธอร์แลนด์ยังไม่พบผู้ได้รับวัคซีนแอสตราเซเนกาที่แสดงอาการป่วยแบบดังกล่าว

ด้านผู้ผลิตแอสตราเซเนกาแถลงว่า ไม่พบหลักฐานว่าวัคซีนมีส่วนกระตุ้นให้เพิ่มความเสี่ยงเกิดอาการ ลิ่มในเลือดอุดตัน เช่นเดียวกันกับองค์การยาแห่งสหภาพยุโรปที่กล่าวออกมาในทิศทางเดียวกัน

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า